UFABETWINS ผู้เล่นแบ็กซ้ายทีมการท่าเรือชุดปัจจุบันอย่าง “แม็ก” จตุรพัช สัทธรรม

ผู้เล่นแบ็กซ้ายทีมการท่าเรือชุดปัจจุบันอย่าง “แม็ก” จตุรพัช สัทธรรม ยังคงจำได้ดีถึงเหตุการณ์ในวันที่เขาได้พบกับ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เป็นครั้งแรก
วันนั้นเด็กชายวัย 12 ปีถูกเพื่อนรุ่นพี่ที่ จ. ระยอง ชักชวนให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปทดสอบฝีเท้าเพื่อเข้าโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา ตอนแรกจตุรพัชไม่ตั้งใจจะคัดตัวด้วย คิดแค่มากับเพื่อนเท่านั้น แต่เป็นโค้ชโต่ยที่เห็นแววของเขาขณะเตะบอลเล่นในสนามหญ้า เลยบอกให้ลงไปคัดตัว
จากนั้นตกลงรับจตุรพัชเข้ามาอยู่ในแคมป์ฝึกหัดนักเตะเยาวชนที่ตนดูแล นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตจตุรพัท ทำให้เขาได้เข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ผ่านการขัดเกลาฝีเท้าโดยโค้ชโต่ย กระทั่งกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่มีดีกรีทีมชาติอย่างทุกวันนี้
แฟนบอลไทยอาจรู้จักชื่อเสียงโค้ชโต่ยจากการเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทย ซึ่งเข้ารับงานแทนที่ มิโลวาน ราเยวัช ที่ถูกปลดออกไป แล้วทำผลงานยอดเยี่ยม สามารถพาทีมชาติไทยเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเอเชียนคัพได้ในรอบ 47 ปี รวมถึงการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอย่างสโมสรไทยฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า ที่ผ่านมาโค้ชโต่ยยังทุ่มเทให้กับการฝึกสอนและทำทีมฟุตบอลเยาวชน สวมบทบาทเป็นทั้ง
“ครูและโค้ช” ขัดเกลาและปลุกปั้นเด็กๆ ให้กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพมานักต่อนัก
“ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด (มหาสารคาม) ด้วยความรักกีฬาฟุตบอล ผมเริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตั้งแต่อยู่ชั้นประถม แต่ตอนนั้นไม่มีโค้ชที่จะมาสอนเรา จนผมได้เข้ามาอยู่ในทีมฟุตบอลโอสถสภาก็เริ่มคิดตลอดว่า สักวันหนึ่งถ้าเราได้เรียนโค้ช เราต้องสร้างประโยชน์ให้สังคม ด้วยการสอนฟุตบอลกับเด็กๆ ที่ไม่มีโอกาส” โค้ชโต่ยเล่าถึงแรงบันดาลใจของตนเอง
โค้ชโต่ยเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับโอสถสภาเป็นทีมแรกและทีมเดียวจวบจนแขวนสตั๊ด ก่อนผันตัวมาเป็นทีมงานสตาฟโค้ช “ผมอยู่กับโอสถสภาฯ ตั้งแต่ ม.6 ทั้งเล่นฟุตบอลและทำงานด้วยก็ 22 ปี ผมได้เป็นโค้ชเยาวชนของโอสถสภา เขาให้โอกาสผมสร้างเด็ก พัฒนาเยาวชน แล้วพอมีเหตุการณ์ยุบทีม แต่ตัวผมเองต้องเดินต่อ เราจะทิ้งเด็กไม่ได้ ผมเลยคุยกับน้องที่เป็นโค้ชด้วยกันว่าตรงนี้พี่จะทำต่อ จะคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ของโอสถสภาว่าจะขอเช่าสนามของทีมเพื่อทำอะคาเดมีสอนฟุตบอลให้เด็กๆ”
นับเป็นจุดเริ่มต้นที่โค้ชโต่ยได้ใช้สถานที่สนามฟุตบอลของโอสถสภาย่านสายไหม ปรับปรุงให้เป็น “เอส เอส อะคาเดมี” เปิดสอนฟุตบอลให้กับเด็กๆ ที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หรือคนที่มุ่งใช้ทักษะฟุตบอลเบิกทางไปสู่การศึกษาที่สูงขึ้น
“แนวทางของเราก็คือ พัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นเลิศและนักเตะอาชีพ เท่าที่ผ่านมามีเด็กๆ หลายคนจากที่นี่สามารถต่อยอดและเป็นนักเตะอาชีพได้” โค้ชโต่ยเผย
“เด็กที่มาฝึกฟุตบอลกับเรา ส่วนหนึ่งอยู่กรุงเทพฯ อีกส่วนหนึ่งมาจากต่างจังหวัด ทั้งภาคใต้ ภาคเหนือ และอีสาน ย้ายมาเรียนหนังสือและกินนอนอยู่ที่นี่ ชีวิตประจำวันคือ ตื่นเช้ามาซ้อม เสร็จแล้วเราจะส่งไปเรียนหนังสือ ตกเย็นเลิกเรียน กลับมาซ้อมอีกรอบ นอกจากนั้นสิ่งที่เด็กต้องทำคือ อ่านหนังสือและทำการบ้าน ผมและทีมงานเห็นความสำคัญกับเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยปละละเลย และกำหนดเวลาเข้านอนไม่ให้ดึก”
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล