UFABETWINS ใกล้เข้ามาแล้ว ศึกมวยนัดยิ่งใหญ่ จะมีขึ้นวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคมนี้
โดยคู่เอก “รถถัง จิตรเมืองนนท์” เผย สภาพร่างกายพร้อมลุย มั่นใจสยบนักชกรุ่นน้อง “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ไว้ได้อีกสมัย ขณะที่ “เพชรมรกต ” นักชกวัย 26 ปี เตรียมแผนเด็ดวางอาวุธยาวๆ และเน้นใช้ความสด บดเอาชนะนักชกรุ่นพี่ “ยอดแสนไกล ”
ในวัย 35 ปี คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต มาครองให้ได้ ส่วนคู่ค้ำ “สิทธิชัย” มีคิวบู๊กับ “ซุปเปอร์บอน” ประเดิม วัน แชมเปียนชิพหนแรกทั้งคู่ โดยต่างฝ่ายต่างทำการบ้านมาอย่างดี ตั้งใจจะคว้าชัยชนะให้ได้ ล่าสุด ทัพนักกีฬาต่างเดินทางมาถึงสถานที่เก็บตัว โดยได้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มา
อย่างเรียบร้อยแล้วทุกคนทั้งนักกีฬาและเทรนเนอร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ตลอดสัปดาห์นี้จนกระทั่งถึงวันแข่งขันจะมีการตรวจเพิ่มเติมอีกเป็นระยะๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับความปลอดภัยอย่างสูงสุดความเคลื่อนไหว ศึก วัน แชมเปียนชิพ รายการศิลปะการต่อสู้อันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย ซึ่งจะมีขึ้น
ในวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคมนี้ ภายใต้ชื่อศึก ONE: No Surrender แม้ศึกนี้จะไม่จัดให้ผู้ชมเข้าไปในสนามตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จะมีการถ่ายทอดสดให้ชมฟรีทางแอปพลิเคชัน ONE Super App และ Youtube เวลา 19.30 น. รวมทั้ง ช่องไทยรัฐทีวี (หมายเลข 32) ตั้งแต่เวลา 21.30
น.เป็นต้นไป ไฮไลต์ที่น่าสนใจอยู่ที่ การดวลกันของสุดยอดนักมวยไทยชั้นนำระดับโลก จำนวน 3 คู่ โดยมีความพร้อมเป็นอย่างไรในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนขึ้นสังเวียน สำหรับความเคลื่อนไหวมีให้ติดตามดังนี้ คู่เอกนำรายการ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต กับ เพชรดำ เพชรยินดี
อะคาเดมี รถถัง เปิดเผยว่า การฟิตซ้อมตอนนี้สภาพร่างกายมีความพร้อมสมบูรณ์มาก ตนเองเก็บตัวทำการฟิตซ้อมอยู่ที่ค่ายมวยจิตรเมืองนนท์ จ.นนทบุรี มาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ในการชกกับเพชรดำนั้น สถิติเคยเจอกันมาแล้ว 2 ครั้งในรูปแบบมวยไทย ผลก็คือเคยผลัดแพ้ผลัดชนะคะแนนกันมาคนละหนึ่ง
ครั้ง โดยงานนี้ตนเองเตรียมตัวมาอย่างดี และเตรียมสภาพร่างกายมาพร้อมลุย โดยมีอาวุธมวยไทยทุกลูกมาโชว์ ซึ่งถ้ามีโอกาสจะเช็กบิลให้เร็วที่สุด และมั่นใจจะเอาชนะและป้องกันแชมป์ไว้ได้แน่ๆ ยืนยันจะไม่ประมาทคู่ชกเด็ดขาด ด้าน เพชรดำ เผยว่า ตนเองทำการฟิตซ้อมมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มเช่นกัน
ที่ค่ายมวยเพชรยินดีอะคาเดมี่ เขตจรัญสนิทวงศ์ โดยไฟต์นี้เป็นการชิงแชมป์โลก ONE ตนเองมุ่งมั่นตั้งใจเต็มที่ ได้มีการเตรียมแผนไว้ก็คือ จะปักหลักสู้กับรถถังกลางเวที และจะไม่ถอยเด็ดขาด เพราะมั่นใจในสภาพร่างกายและความสดที่หนุ่มกว่ารถถัง ตนตั้งใจจะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นนี้มาครองให้ได้
ส่วนรองคู่เอก เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต กับ ยอดแสนไกล ไอเว-แฟร์เท็กซ์ เพชรมรกต ให้สัมภาษณ์ว่า ไฟต์นี้เป็นการชิงแชมป์โลก ONE ตนเองตั้งใจทำการฟิตซ้อมมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ที่ค่ายมวยเพชรยินดีอะคาเดมี่ โดยการเจอกับยอดแสนไกลนั้น
ต้องยอมรับว่าเป็นงานหนักจริงๆ เพราะตนเองเป็นรองเรื่องความเก๋า อย่างไรก็ตาม ทีมงานเทรนเนอร์ของตนได้เตรียมแผนการชกไว้ก็คือ จะให้ตนเองนั้นใช้ความสดของร่างกายลุยสู้บนเวทีเบียดให้รุ่นพี่ยุบให้ได้ ซึ่งแผนการชกได้เตรียมอาวุธยาวก็คือ เข่าและเตะ ไว้เป็นหลัก ส่วนหมัดก็เตรียมไว้บวกสู้กับรุ่นพี่
เช่นกัน ด้าน ยอดแสนไกล กล่าวว่า ไฟต์นี้ต้องบอกว่าโอกาส 50-50 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุที่ไม่มั่นใจเต็มร้อยนั้น ก็เพราะว่างานนี้เจอกับนักชกรุ่นน้องนั่นเอง ส่วนการฟิตซ้อมยืนยันได้เลยว่าตนเองเตรียมตัวมาอย่างดี ได้มีการฟิตซ้อมเป็นเวลาหนึ่งเดือนที่ค่ายมวย น.อนุวัฒน์ยิม จ.ชลบุรี สำหรับการวางแผนบนเวที
นั้นก็อยากจะปิดเกมให้เร็วที่สุด หากปล่อยเกมยาวแล้วลุ้นกันปลายๆ ตนเองเสียเปรียบเรื่องสภาพร่างกายแน่นอน เนื่องจากตอนนี้อายุ 35 ปีแล้ว ถ้ามีโอกาสน็อกได้จะน็อกรุ่นน้องทันที ขณะที่คู่ค้ำของรายการ สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง เจอกับ ซุปเปอร์บอน ในรูปแบบคิกบ็อกซิ่ง ซูเปอร์ไฟต์ รุ่นเฟเธอร์เวต สิทธิชัย
เปิดใจให้ฟังว่า ตนเองเตรียมตัวก่อนชกไฟต์นี้เป็นอย่างดี มีการฟิตซ้อมเกือบสองเดือน ที่ค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง เขตสวนหลวง ร.9 โดยสถิติที่เคยเจอกับซุปเปอร์บอน เคยชกกันมา 2 ครั้ง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะคะแนนมาคนละหนึ่งครั้ง สำหรับความมั่นใจไฟต์นี้ ตนเองมั่นใจว่าจะชนะ ส่วน ซุปเปอร์บอน กล่าว
ว่า เป็นการขึ้นชกรายการ วัน แชมเปียนชิพ หนแรกของตัวเอง โดยตนเองตั้งใจจะประเดิมให้สวยงามที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้เก็บตัวฟิตซ้อมที่ค่ายมวย ส.ตะวันรุ่ง ตนเองได้เตรียมตัวแก้เกมไว้แล้ว เนื่องจากเคยเจอกับสิทธิชัยมาแล้ว 2 ครั้ง รู้จังหวะการออกอาวุธของคู่ต่อสู้แล้วว่ามีความถนัดอะไรมากที่สุด โดยตนก็
เตรียมแผนและแก้ทางไว้หมดแล้ว อยากให้แฟนๆติดตามดูเกมการชกบนเวที ซึ่งตนเองจะสู้เต็มที่และจะเปิดตัวในการชกรายการนี้ครั้งแรกให้สวยงามที่สุด ด้าน”แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต นักชกหญิงเบอร์หนึ่งของประเทศไทยหวนคืนสู่สังเวียนการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA)
เพื่อต้อนรับน้องใหม่ “สุนิษา ศรีเเสน” “แสตมป์ ” กล่าวว่า จากที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับ สุนิษา เมื่อครั้งมาฝึกซ้อมที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ราว 5 วัน จึงเห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเท รวมถึงพื้นฐานวิชายูโดอันแข็งแกร่งของนักสู้รุ่นน้อง อีกทั้งยังมองเห็นจุดอ่อนจากการร้างเวทีไปนาน ซึ่งทำให้สุนิษาไม่คล่องแคล่วเท่าที่
ควร ผิดกับเธอเองที่ฟิตร่างกายมาตลอด จึงน่าจะได้เปรียบกว่า รวมถึงเรื่องกระดูกมวยด้วย “น้องเขามีเวลาเตรียมตัวฝึกซ้อมแค่เดือนกว่าๆ ก็อยากให้ฝึกซ้อมมาให้เต็มที่และทำให้ดีที่สุด เพราะอยากจะเห็นฝีมือจริงๆของน้องบนเวที ส่วนตัวแสตมป์เน้นซ้อมเกมนอนสู้ และค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำทีเคโอ.หรือไม่ก็ซับมิชชันน้องอิ๋วได้ โดยตั้งใจว่าจะปิดเกมให้ไวที่สุด เพื่อให้น้องได้เจ็บตัวน้อยที่สุด แต่ทั้งนี้ก็จะไม่ประมาท และจะซ้อมไปอย่างเต็มที่เช่นเดียวกันค่ะ”
บุรีรัมย์ แถลงตรวจพบ แข้งดัง 1 ราย ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการกักตัวเรียบร้อย
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ โดยนายแพทย์พิเชษฐ พืชขุนทด รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายแพทย์ภูวดล กิตติวัฒนสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ร่วมแถลงข่าว กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานที่กักกันแห่งรัฐ (STATE QUARANTINE) จังหวัดบุรีรัมย์
1 ราย เป็นรายงานผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่จังหวัดบุรีรัมย์ รายที่ 14 โดยผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นเพศชาย สัญชาติเซอร์เบีย อายุ 29 ปี อาชีพนักฟุตบอล ได้ถูกกักตัวใน Bric Box Hotel จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Timeline ของผู้ติดเชื้อรายนี้ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 เวลา 9:00 น. เดินทางเข้าสู่
ประเทศไทย จำนวน 3 ราย (นักฟุตบอล 2 ราย นักกายภาพบำบัด 1 ราย) ได้รับการตรวจคัดกรองที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ทุกรายไม่มีอาการผิดปกติ และผลตรวจโควิด (Day 0)ไม่พบสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เวลาประมาณ 13:00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ โดยเครื่องบิน
เช่าเหมาลำ มีการคัดกรองบริเวณทางลงท่าอากาศยานทันที มีการจัดระบบเพื่อหลีกเลี่ยง ไม่มีการใช้พื้นที่ภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อและซีลกระเป๋าสัมภาระก่อนขนส่งและเข้าสถานกักกันตัว ที่โรงแรม Bric Box Hotel ด้วยรถ Ambulance โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการ ทั้งหมดสวมหน้ากาก
อนามัยชนิด N95 และสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ และตลอดเวลาที่อยู่ STATE QUARANTINE มีการติดตามอาการไข้และอาการทางเดินหายใจทุกวัน พบว่า ทั้ง 3 รายไม่มีอาการไข้และไม่มีอาการผิดปกติ ใดๆ วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2563 (Day 8, 9) ส่งตรวจที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ผลการตรวจสารพันธุกรรม
ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 พบว่า ไม่ชัดเจน จำนวน 1 ราย จึงได้ส่งตรวจยืนยันซ้ำที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 พบว่า พบเชื้อ จึงได้ทำการนำส่งผู้ที่พบเชื้อ จำนวน 1 รายนี้ ไปที่ห้อง Negative Pressure ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์เพื่อทำการรักษาและจะดำเนินการตรวจหา
เชื้อซ้ำ ในวันที่ 2 สิงหาคม 2563 ต่อไป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในการแยกกักตัวครั้งนี้ได้ดำเนินการดูแลผู้กักตัวในสถานที่กักตัวซึ่งทางราชการกำหนด (STATE QUARANTINE) โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยชุดปฏิบัติการ EOC
จังหวัดบุรีรัมย์ตลอด 24 ชั่วโมงตามมาตรฐานที่กำหนด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ กล่าวยืนยันว่า ขอให้ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มั่นใจได้ว่า ไม่มีชาวบุรีรัมย์สัมผัสและใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 อย่างแน่นอน เพราะตลอดเวลาที่ผู้ติดเชื้อเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ก็เดินทางต่อไป
ยังสถานที่กักตัวของรัฐทันที และผู้ที่เดินทางไปตรวจสุขภาพ ผู้ที่ส่งอาหาร ผู้ที่ทำความสะอาด มีการสวมชุดป้องกันการติดเชื้อตามมาตรฐาน ไม่สามารถที่จะติดเชื้อ หรือแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้อย่างแน่นอน
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://kasthurimmc.com